วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วิธีเลือกซื้อปลา

วิธีเลือกซื้อปลา


ในการทำอาหารนั้น หากเครื่องปรุงและส่วนผสมที่เลือกใช้ เป็นของสดใหม่ ก็จะช่วยเสริมให้รสชาติของอาหารดีขึ้น แต่หากเลือกใช้ของที่ไม่สดมาปรุงละก้อ เหอ...เหอ ไม่อยากพูดถึงเลย โดยเฉพาะอาหารทะเลหากเลือกไม่ดี มีหวัง...


เนื่องจากปลาเป็นอาหารโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกายสูง แต่ไขมันต่ำ (เมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์อย่างอื่น) นอกจากนี้โปรตีนในปลา ยังเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย และเนื้อปลายังอุดมไปด้วยวิตามินบี 1 บี 2 บี 6 และวิตามินดี เนื้อปลาจึงเป็นที่นิยมของผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก ผู้มีความดันโลหิตสูง และผู้ป่วยโรคหัวใจ วันนี้เราจึงนำวิธีเลือกซื้อปลามาฝาก สำหรับแม่ครัวและพ่อครัวมือใหม่โดยเฉพาะ (ประสบการณ์ไม่เน้น เน้นสดค่ะ)





พูดถึงปลา เราจำแนกปลาได้เป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ คือ ปลาน้ำจืด และปลาทะเล (ถ้าจะให้ถูกก็ปลาน้ำเค็ม) นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ เค้ายังแบ่งกลุ่มกันให้ละเอียดเข้าไปอีก โดยแยกปลาตามปริมาณไขมัน ที่ปลาแต่ละชนิดมีแตกต่างกันไป (ซึ่งทำให้รสชาติแตกต่างกันไปด้วย) และหากจะแบ่งปลาโดยคุณสมบัตินี้ ก็แบ่งได้เป็น 3 ประเภทด้วยกัน คือ



• ปลาที่ไม่มีไขมัน หรือมีน้อยมาก (ต่ำกว่า 2% ) เนื้อปลาพวกนี้จะมีสีขาว เช่น ปลาเนื้ออ่อน ปลากราย ปลาสำลี ปลาจาระเม็ด ปลากะพง ฯลฯ



• ปลาที่มีไขมันปานกลาง (ตั้งแต่ 2-5% ) เช่น ปลาดุก ปลาตะเพียน ปลาอินทรีย์ ฯลฯ



• ปลาที่มีไขมันสูง (มากกว่า 5% ) ปลาพวกนี้ส่วนมากจะมีเนื้อสีเหลือง ชมพู หรือเทาอ่อน เช่น ปลาสวาย ปลาเทโพ ปลาไหลทะเล ฯลฯ



สำหรับการเลือกซื้อปลา มีเคล็ดลับ คือ ต้องเลือกปลาที่ตาใส ตาปลาไม่ควรยุบลงเป็นเบ้า (เหมือนคนนอนดึก) และเนื้อปลาต้องแน่น เมื่อกดแล้วยกนิ้วขึ้นเนื้อปลาต้องคงสภาพปกติ ไม่บุ๋มตามรอยนิ้วมือ ที่สำคัญเหงือกปลาต้องมีสีสด



เมื่อเลือกซื้อปลาได้แล้ว ควรทำความสะอาดปลา โดยต้องขอดเกล็ดออกให้หมด เพราะหากทานปลาแล้วโดนเกล็ดปลา จะรู้สึกเสียบรรยากาศมาก และถ้าปลานั้นไม่มีเกล็ด ก็ต้องขูดเมือกออก แล้วดึงเหงือกและควักไส้ออก ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น ซึ่งหากต้องการความสะดวก อาจให้แม่ค้าปลาช่วยจัดการให้ก็ได้ แต่เมื่อมาถึงบ้านแล้วเราก็นำเอาปลาเหล่านั้นมาล้างให้สะอาดอีกครั้ง เสร็จแล้วก็จัดการเก็บใส่กล่องพลาสติก ปิดฝาให้มิดชิด นำเข้าช่องแช่แข็ง



เคล็ดลับในการเก็บเนื้อปลาก็มีอยู่ว่า ควรแบ่งปลาในแต่ละกล่อง ให้มีปริมาณพอดีกับที่เราต้องการใช้ในแต่ละมื้อ เพราะหากเราใส่เนื้อปลาไว้มากเกินความต้องการในแต่ละครั้ง เวลาเราจะเอาออกมาใช้ก็ต้องทำการละลายน้ำแข็ง (หรือตั้งไว้ให้มันละลาย) แล้วค่อยแกะแบ่งออกมา (หากแช่แข็งเนื้อปลามักเกาะกลุ่มกันเป็นก้อน) และเมื่อนำปลาที่เหลือไปแช่แข็งต่อ ก็จะทำให้คุณค่าทางอาหารเสียไป และทำให้ระยะเวลาในการเก็บรักษาสั้นลง



ส่วนในกรณีที่เราเลือกซื้อปลา ประเภทที่เค้าแช่แข็งมาอยู่แล้ว มาทำอาหารประเภทอบ ปิ้ง ย่างนั้น ก็มีข้อแนะนำว่า ให้อบได้เลยไม่ต้องละลายน้ำแข็ง เพราะน้ำในตัวปลา จะละลายออกมาด้วย ทำให้เสียรสชาติไปเยอะทีเดียว


หวังว่าเคล็ดลับที่ไม่ลับที่นำมาฝากกันคราวนี้ จะช่วยเพิ่มข้อมูลในการทำอาหาร ให้พ่อครัวและแม่ครัวมือใหม่ทั้งหลายมากขึ้นนะคะ





--------------------------------------------------------------------------------


by: Torquoise

story@phuketindex.com

เทคนิคการเลือกไม้เทนนิส

การเลือกซื้อไม้เทนนิสให้เหมาะสม

02:04, 2010-Jan-13 .. Link

วิธีการเลือกไม้เทนนิส

การเลือกใช้ไม้เทนนิสให้เหมาะสมกับตัวเองมีความสำคัญมาก ไม้เทนนิสยี่ห้อหนึ่งอาจจะเหมาะสมกับคนหนึ่ง แต่อาจจะไม่เหมาะสมสำหรับอีกคนก็ได้ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเพื่อประกอบในการตัดสินใจ เพื่อความเหมาะสมสำหรับผู้เล่น เราต้องคำนึงถึงองค์ประกอบหลายๆอย่างประกอบกัน เช่น โครงสร้างของไม้เทนนิส น้ำหนัก ขนาดของด้ามจับ น้ำหนักสมดุลระหว่างหัวไม้กับด้ามจับ ความสามารถในการเล่น อายุของผู้เล่น สิ่งเหล่านี้ จะมีข้อแตกต่างกันไปสำหรับมือใหม่หัดตี และ พวกที่ช่ำชองแล้ว แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

น้ำหนักของไม้

น้ำหนักของไม้ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ใช้จะต้องตัดสินใจในการเลือกซื้อให้ดี ให้มีความเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด ไม่ใช่ใช้ไม้หนักเกินไปหรือเบาเกินไป เราพึงจะคิดคำนึงถึงกำลังของตนเองด้วยว่าจะคอนน้ำหนักไปได้มากน้อยแค่ไหน เพราะบางทีในการเล่นเกมแรก ๆ ไม้ก็ยังเหมาะมือดีอยู่ แต่พอไปเกมหลัง ๆ เริ่มมีความชำนาญอาจจะใช้ไม้ที่หนักขึ้นทุกที ๆ เหล่านี้เป็นต้น ขนาดของด้ามจับควรกระชับฝ่ามือให้มีความถนัดในการจับมากที่สุด ไม่ควรใหญ่เกินไปหรือเล็กเกินไป การเลือกใช้ด้ามจับที่ตนเองไม่ถนัดมีส่วนทำให้การเล่นเทนนิสได้ไม่ดีเท่าที่ควรเช่นกัน



1. กราไฟ้ท์ 100% จะให้น้ำหนักเบา มีความ แข็งแรง ทนทาน ยืดหยุ่นได้ดี ทำให้ควบคุม ลูกได้ง่าย เหมาะสำหรับ ผู้ที่เล่นได้ดี และช่ำชองแล้ว

2. กราไฟ้ท์ผสม (Composite) จะมีน้ำหนัก มากกว่าแบบแรก มีความแข็งแรงทนทาน เหมาะสำหรับ ผู้ที่เล่นเทนนิสเพื่อการ ออกกำลังกาย สังสรรค์ในหมู่เพื่อนฝูง หรือมือใหม่หัดตี

3. อลูมินั่ม จะมีน้ำหนักเบา ให้ความ แข็งแรง ทนทาน แม้ตีกระแทกพื้นสนาม เหมาะสำหรับ เด็กที่กำลังหัดเล่นใหม่

น้ำหนักสมดุลระหว่างหัวไม้กับด้ามจับ

ไม้เทนนิสแต่ละยี่ห้อจะมีความสมดุลในเรื่องเหล่านี้แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น ไม้ยี่ห้อหนึ่งหนักที่หัวไม้มากกว่าด้ามไม้ แต่ไม้อีกยี่ห้อหนึ่งหนักที่ด้ามจับมากกว่าหัวไม้ ดังนั้นผู้เล่นก็ควรจะต้องลองเล่นและพิจารณาดูตนเองว่าชอบเล่นแบบไหน เล่นอยู่ที่ท้ายคอร์ทหรือวอลเลย์ที่หน้าเน็ท ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ การใช้ไม้เทนนิสที่หนักหัวเล่นที่ท้ายคอร์ทจะทำให้การตีลูกเป็นไปอย่างแม่นยำกว่า เพราะน้ำหนักที่หัวไม้ช่วยในการส่งลูกได้ดีกว่า แต่พอใช้เล่นวอลเลย์ที่หน้าเน็ท ไม้ที่หนักหัวจะทำให้ตีลูกได้ช้ากว่าไม้ที่เบาที่หัวไม้ การที่ช้ากว่าแม้จะเพียงเสี้ยววินาทีเดียวก็ทำให้เกิดการตีลูกวอลเลย์ ผิดจังหวะไปอย่างน่าเสียดาย



ขนาดของกริป (GRIP)

การเลือกขนาดกริปที่เหมาะสม ควรเลือกใช้ให้ เหมาะมือของแต่ละคน ขนาดของด้ามแร็กเก็ต (Grip) มีลักษณะแปดเหลี่ยม ถ้าเล็กไป จะทำให้แร็กเก็ต ลื่นหลุดมือได้ง่ายแต่ถ้าแร็กเก็ตใหญ่ไปจะจับไม่แน่น วิธีเลือกขนาดของ ด้ามแร็กแก็ต ที่เหมาะสมคือ เมื่อเอามือจับรอยด้าม หัวแม่มือจะไปทาบ บนนิ้วมือนิ้วกลาง ระหว่างนิ้วนางกับนิ้วก้อย ให้มีช่องว่างประมาณ 1-2 เซนติเมตร ซึ่งเป็นความถนัดของแต่ละบุคคล กริบมีขนาดแตกต่างกัน ดังนี้

กริปมี 3 ขนาด

กริปขนาดเล็ก 4 1/4 นิ้ว

กริปขนาดกลาง 4 3/8 นิ้ว

กริปขนาดใหญ่ 4 นิ้ว

ความสามารถในการเล่นเทนนิส

ความสามารถนี้จะสามารถพิจารณาได้จากความสนใจ หรือ จุดประสงค์ในการเล่นเทนนิสของคุณเอง หากคุณมีความตั้งใจและจริงจังที่จะเล่นเทนนิส มีความรู้ ความเข้าใจและรักในกีฬาเทนนิส และ ต้องการพัฒนาฝีมือให้ดียิ่งขึ้น การเลือกไม้ อาจจะพิจารณาจากโครงสร้าง ไม้กราไฟ้ท์ ขนาดของหน้าไม้ตั้งแต่ 90-95 ตร.นิ้ว ความยาวมาตรฐานหรือยาวกว่ามาตรฐานเล็กน้อย แต่กรณีที่คุณสนใจกีฬาเทนนิส เพราะต้องการจะเล่นเทนนิสกับเพื่อนฝูง เล่นเพื่อผ่อนคลาย หรือเป็นการออกกำลังกาย ก็แนะนำว่าไม้เทนนิส ที่มีน้ำหนัก มากกว่าปกติ ซึ่งจะเป็นพวกกราไฟต์ผสม หรือไม้อลูมินั่ม จะเหมาะกับการเล่น มากกว่า เพราะจะควบคุมลูกได้ง่ายกว่า
อายุของผู้เล่น
สำหรับเรื่องของอายุก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรพิจรณา เพราะในแต่ละวัยจะมีความเหมาะสมที่ แตกต่าง กันออกไป เพราะ ผู้เล่นหัดใหม่ที่เป็นเด็กเล็กไม่ควรที่จะใช้ ไม้เทนนิสของผู้ใหญ่ การเลือกไม้เทนนิสเราจึงต้องพิจารณา จากอายุ เป็นเกณฑ์ โดยแบ่งออกได้ คือ

Junior ขนาดความยาว 25" สำหรับเด็กอายุ 7-10 ปี

Cadet ขนาดความยาว 23" สำหรับเด็กอายุ 5-8 ปี

Mini ขนาดความยาว 21" สำหรับเด็กอายุ 4-6 ปี

ส่วนผู้ใหญ่ รวมถึง เด็กที่มีอายุเกิน 10 ขวบ ก็สามารถให้ใช้ไม้ในขนาดปกติ ได้เลย เพราะ ยิ่งจับไม้ เมื่ออายุน้อยๆ ก็ ยิ่งจะมีความเคยชิน
เมื่อเลือกไม้เทนนิสที่เหมาะสมกับตัวเองแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคนว่าใครจะเล่นได้ดีกว่า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน หมั่นฝึกซ้อมกันบ่อยๆ ไม่นานรับรองได้เลยว่าเก่งแน่นอน ไม่แน่นะคุณอาจได้เป็น นักเทนนิสระดับโลก ก็ได้ ใครจะไปรู้



<<ใช่มั๊ย ใช่มั๊ย>>

ที่มา
http://sportzone.blogth.com/

ประวัติ usain bolt

ประวัติ usain bolt
ยูเซน โบลต์ (อังกฤษ: Usain Bolt) เกิดเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 1986 เป็นนักวิ่งชาวจาเมกา เจ้าของฉายา "เจ้าสายฟ้าแลบ" (The Lightning Bolt) เจ้าของสถิติโลกวิ่ง 100 เมตร ที่เวลา 9.69 วินาที[1] (ความเร็วลม +0.0 เมตร/วินาที) และสถิติโลกวิ่ง 200 เมตร เวลา 19.30 วินาที (ความเร็วลม −0.9 เมตร/นาที ) ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 เขามีความสูง 196 เซนติเมตร ( 6'5") น้ำหนัก 86 กิโลกร้ม (189 lbs)[2]

เมื่อวันที่31เดือน5ปี2008 งานแข่งขัน Reebok Grand Prix จัดขึ้นที่นิวยอร์ก เค้าได้สร้างสถิติโลกครั้งแรก(ในตอนนั้น)ในการวิ่งระยะทาง 100เมตร เป็นเวลา 9.72วินาที และชนะเลิศในการแข่งขัน


เมื่อวันที่16เดือน8ปี2008 ในงานโอลิมปิกฤดูร้อน2008 จัดขึ้นที่จีน เค้าได้ทำลายสถิตโลกอีกครั้ง(ในตอนนั้น)ในการวิ่งระยะทาง 100เมตร เป็นเวลา 9.69วินาที ครั้งนี้เค้าทำลายสถิติของตัวเอง ที่สร้างไว้เมื่อเดือน5 ในปีเดียวกันนั้น ชนะเลิศในการแข่งขัน


*รู้ไหมว่า ในการแข่งขันครั้งนี้ ยูเซนโบลต์เพิ่งรู้เป็นครั้งแรกว่าเค้าได้ทำลายสถิติสร้างสถิติใหม่ เค้าเพิ่งรู้ว่าเค้าได้ทำลายสถิติเก่าของเค้าเองเมื่อเดือน5ที่ผ่านมา และเมื่อตอนที่ได้สร้างสถิติโลกใหม่ครั้งแรกนั้นเค้ายังไม่รู้จักมาก่อนด้วยซ้ำว่า ในตอนนั้นสถิติโลกมีเท่าไร ก็คือว่าเค้าไม่รู้ตัวว่าตัวเองนั้นได้สร้างสถิติใหม่ไปแล้วในงานแข่งขัน Reebok Grand Prix เมื่อเดือน5ปีเดียวกันนั้น(2008)

และข่าวล่าสุด ในวันที่16เดือน8ปี2009 การแข่งขัน2009 World Championships in Athletics จัดขึ้นที่เมืองเบอร์ลินประเทศเยอรมัน เค้าได้ทำลายสถิติโลก(ของตัวของ)อีกครั้ง และชนะเลิศในการวิ่งระยะทาง 100เมตร ด้วยเวลา 9.58วินาที สร้างสถิติทำลายสถิติเดิมที่ตัวเองได้ทำไว้เมื่อปีที่แล้วในงานโอลิมปิกฤดูร้อน2008
100เมตร 9.58วินาที เป็นสถิติปัจจุบัน
เค้าอาจจะวิ่งได้เร็วขึ้นอีกและสร้างสถิติใหม่อีกเร็วๆ นี้ก็เป็นได้!!!

 
ข้อมูลจาก

http://en.wikipedia.org/wiki/Usain_Bolt